เรียนดนตรี พ่อแม่ควรรู้อะไร

“เรียนดนตรีที่ไหนดี”

“แล้วเด็กเล็กควรเริ่มเรียนดนตรีเมื่อไร”

“เรียนดนตรีแล้วมันจะดียังไง”

“แล้วควรจะเรียนดนตรีประเภทไหน” 

 

คุณพ่อคุณแม่คงมีคำถามแบบนี้ใช่มั้ยคะ

Music and EF มาแชร์ข้อมูลค่ะ

เรียนดนตรี

โรงเรียนดนตรีที่ดีที่สุด สำหรับลูกคุณ คือที่ไหน

คำว่าดีที่สุดของแต่ละคนย่อม ลองใช้ 3 ข้อนี้ในการช่วยตัดสินใจ 

  • เป้าหมายการเรียน
  • สิ่งที่คุณให้ความสำคัญ
  • วิถีชีวิตมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการเรียน
 

รายละเอียดเพิ่มเติม

 

เรียนดนตรีที่ไหน

เด็กเล็ก ควรเริ่มเรียนดนตรีเมื่อไร

  • การเรียนดนตรีได้ดี ส่วนนึงมาจากการมีทักษะการฟังที่ดี สมองส่วนการรับรู้เสียง จะสร้างจุดเชื่อมต่อปลายประสาท (Synapses) จำนวนมหาศาลเมื่ออายุ 1-2 ปี และค่อยๆ ลดลงจนเท่ากับสมองของผู้ใหญ่ เมื่อายุ 5-6 ปี

ฉะนั้น การเริ่มเรียนดนตรีขณะที่สมองมี Synapses มหาศาล ย่อมได้เปรียบมากกว่า

 

  • การเรียนดนตรีของเด็กเล็กนั้น ส่วนมากจะเน้นไปที่การฟัง การร้อง และการเคลื่อนไหว โดยเมื่อเรียนไปสักพักเด็กๆ จะสามารถแยกแยะเสียงตัวโน้ตได้ แม้หลับตา และเข้าใจเสียงดนตรีอย่างแยบคาย เพราะเขาใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองเรียนรู้มัน

เช่น ช่วงนี้เสียงดัง จังหวะช้าๆ หนักๆ ต้องเดินเหมือนคิงคอง หรือช่วงนี้เสียงเบา จังหวะปานกลาง พริ้วๆ ต้องบินเหมือนนก

 

ทำให้เมื่อโตขึ้น มีพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็กพร้อมกับการเล่นเครื่องดนตรีแล้ว เขาจะเรียนรู้เรื่องจังหวะ โทนเสียง และอารมณ์เพลงได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมชาติ 

ขอขอบคุณ VDO จาก TED-Ed Thai

เรียนดนตรี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างไร

  • ในช่วง 1-2 ขวบ การร้องเพลง ร้องโน้ต จะช่วยพัฒนาเรื่องทักษะภาษา
 
  • ในช่วง 2 ขวบขึ้นไป การเคลื่อนไหวตามเสียงดนตรี หรือการใช้เสียงดนตรีเป็นกติกา จะช่วยพัฒนาเรื่องกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัว การรับรู้เสียง ทักษะมือตาประสาน โดยจะช่วยให้สมองทุกส่วนทำงานร่วมกันได้ดี รวมถึงสมองส่วนอารมณ์ด้วยเช่นกัน

 

และนอกจากนี้ยังส่งเสริมทักษะสมอง EF

    • ตัวแรก คือ ความจำใช้งาน (Working Memory)

      เมื่อเด็กๆ เคลื่อนไหวร่างกายตามเงื่อนไขเสียงดนตรี เช่น ทำนองนี้ต้องนั่งตบตัก ทำนองนี้ต้องวิ่งวนเป็นวงกลม เมื่อนั้นเด็กๆ กำลังใช้สมองส่วนความจำ (จำว่าทำนองแบบนี้ต้องทำอะไร) ประมวลร่วมกับเสียงเพลงที่ได้ยิน แล้วจึงทำท่าออกมา

 

    • ตัวที่สอง คือ การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control)

      การเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี เกิดจากการพยายามควบคุม หรือยับยั้งตัวเองจากการเคลื่อนไหวที่ปล่อยตามสบาย

 

    • ตัวที่สาม คือ ยืดหยุ่นความคิด (Cognitive Flexibility)

      การทำกิจกรรมในหลายรูปแบบ จะช่วยให้มีมุมมองที่หลากหลายขึ้น ไม่ยึดติด เช่น เพลงแมงมุมลายตัวนั้น

ครั้งที่1 ร้องเพลง

ครั้งที่ 2 ทำท่า

ครั้งที่ 3 เล่นเครื่องดนตรี สร้างเสียงตามจินตนาการ

 

  • ในช่วงประมาณ 4 ขวบขึ้นไป หรือช่วงที่เรียนเครื่องดนตรีเดี่ยวแล้ว การบรรเลงโดยใช้มือสองข้าง ใช้ตาดูโน้ต ใช้หูฟังเสียง และถ้าเป็นเปียโน หรือกลอง ก็จะต้องใช้เท้าเหยียบด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้สมองส่วนต่างๆ ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วง ยิ่งสมองทำงานร่วมกันได้ดีแค่ไหน แต่ละเซลล์ส่งสัญญาณถึงกันได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งทำให้การเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ดีตามไปด้วย

เรียนดนตรี แล้วจำเป็นต้องฝึกซ้อมหรือไม่

  • หากเป้าหมายของการเรียนดนตรี คือ แค่อยากใช้เวลาว่าง ทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เล่นโทรศัพท์ การฝึกซ้อมก็อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่ธรรมชาติของการเรียนทุกอย่าง คือมันต้องยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น เป็นของปกติ และยิ่งวิชาดนตรีเป็นวิชาที่ใช้ทักษะ มากกว่าความรู้ จึงสามารถถูไถ่เรียนได้ในระดับเริ่มต้น

 

  • แต่หากเป้าของการเรียนดนตรี คือ อยากฝึกสมอง อยากฝึกวินัย อยากฝึกความอดทน แน่นอนค่ะ…..ทักษะเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเด็กได้ฝึกซ้อมเท่านั้น

 

เริ่มเรียนดนตรี

เริ่มเรียนดนตรี จากเครื่องดนตรีชนิดใดดี

  • เปียโน ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการเริ่มเรียนดนตรี ด้วยเหตุผลที่ว่า การเล่นเปียโน ต้องเล่นทั้งแนวทำนอง และแนวประสาน เอื้อให้ผู้เรียนเข้าใจองค์ประกอบของดนตรีได้ครอบคลุม มากกว่าการเล่นเครื่องดนตรีที่เล่นเฉพาะแนวทำนอง เช่น ฟลูต ไวโอลิน
 
  • แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และความชอบเป็นสำคัญ มีนักดนตรีฝีมือดีมากมาย ที่ไม่เคยเล่นเปียโนเลยสักครั้ง แต่ก็ประสบความสำเร็จด้านดนตรีได้เป็นอย่างดี